บทที่ 2 ตอนที่ 2
“ได้แล้วค่ะท่านประธาน”
ลูเซียสที่กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกค่อยๆ หันกลับมา แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามากระทบกับศีรษะทุยได้รูปสวย ทำให้ชายหนุ่มดูน่าเกรงขามมากขึ้นอีกเท่าตัว
“วางไว้ และออกไปได้แล้ว”
“ค่ะท่านประธาน” เอมี่แทบจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานสุดโอ่อ่าของลูเซียสเลยทีเดียวก็ว่าได้
และเมื่ออยู่ตามลำพัง นัยน์ตาสีดำสนิทก็จับจ้องที่แฟ้มสามสี่อันตรงหน้านิ่ง มือใหญ่สีแทนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมายื่นมาหยิบแฟ้มตรงหน้าไปเปิดอ่าน
“นรากร อัติมา ไม่ใช่คนนี้” แฟ้มแรกถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลูเซียสจะเปิดแฟ้มที่สอง
“สายัณ อมรพันธ์ นี่ก็ไม่ใช่” แฟ้มที่สองก็ยังไม่มีเค้าเหมือนกับผู้ชายคนที่เขาเห็นว่าอยู่กับญานิดาเมื่อเช้านี้
มือใหญ่วางแฟ้มที่สองทับบนแฟ้มแรกอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มที่สามขึ้นมาเปิดออก และคราวนี้สายตาของเขาก็เหมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่งอยู่กับชื่อ-สกุล และรูปถ่ายของผู้ชายในแฟ้มประวัตินี้
“กรรชัย เมธวัน หัวหน้าแผนก การตลาด ส่วนการทำโฆษณา”
ความไม่เป็นมิตรฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของลูเซียสอย่างชัดเจน เขาเกลียดผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เกลียด! ที่มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่า ตัวเองกำลังเจอะเจอกับความพ่ายแพ้ ซึ่งมันเป็นครั้งแรกในชีวิต
ปัง!
มือใหญ่ปิดแฟ้มลงก่อนจะกระแทกมันลงบนโต๊ะทำงานไม้โบราณของตัวเองอย่างแรง ลมหายใจแห่งความเดือดดาลระเบิดตูมตามอยู่ในอก ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชแบบนี้มาก่อนเลย หลงรักผู้หญิงที่มีเจ้าของอยู่แล้ว แถมยังมีหน้าอยากเห็นเจ้าของของเจ้าหล่อนอีกนะ
‘เป็นไงล่ะ? เห็นแล้วรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า’
กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น นัยน์ตาคมกล้าวาววับด้วยความเกรี้ยวกราด
ไม่มีทางเสียล่ะ ที่คนอย่างนายลูเซียส เมเนนเดซ ผู้ชายที่เย่อหยิ่งในสายเลือดของตัวเองจะต้องไปรบราฆ่าฟันกับผู้ชายคนละชั้นกันแบบนั้น เพื่อให้ได้ผู้หญิงเกรดต่ำอย่างญานิดามาครอบครอง
‘ก็แค่อยากได้ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งมาขึ้นเตียงเท่านั้นแหละ พอหายอยากแล้วก็เขี่ยทิ้ง เหมือนกับที่เคยทำเป็นปกติในชีวิตประจำวันยังไงล่ะ’
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเกลื่อนใบหน้าคมสัน พึงพอใจกับความคิดของตัวเองเป็นที่สุด แม้ร่างกายของเขาจะยังคงไม่ยอมสงบ แต่หากคืนนี้เขาได้สุดเหวี่ยงกับนางแบบหุ่นเซ็กซี ลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกเด็ดๆ สักคน แค่นี้ญานิดาก็จะกลายเป็นแค่เศษขยะความทรงจำ ที่พรุ่งนี้เขาก็จะลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย
“คุณเอมี่ มารับแฟ้มประวัติไปได้แล้ว”
“ค่ะท่านประธาน”
เพียงไม่ถึงสิบวินาทีเลขาฯ ร่างอวบก็รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ลูเซียสหรี่ตาแคบมองเอมี่เลขาฯ ที่เขาเลือกมาเองกับมือด้วยความชื่นชม เอมี่ทำงานเก่ง แม้จะไม่สวยก็ตาม ริคคาโดเคยถามเขาว่า ทำไมถึงเลือกเอมี่มาเป็นเลขาฯ ทำไมไม่เลือกสาวๆ สวยๆ หุ่นดีๆ จะได้เจริญหูเจริญตา แต่เขาก็ตอบกลับไปว่า ที่นี่มันคือที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเจริญหูเจริญตา เพราะความเจริญหูเจริญตาควรอยู่บนเตียงเท่านั้น
“ผมอยากได้แผนการตลาดใหม่ๆ ให้ทางฝ่ายการตลาดนำขึ้นมาให้ผมก่อนสิบโมงเช้าด้วย”
“เอ่อ...ค่ะท่านประธาน”
เอมี่กำลังจะถอยหลังออกจากห้อง แต่เสียงทรงอำนาจของลูเซียสที่ดังออกมาอีกก็หยุดหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“และงบดุลในไตรมาสนี้ด้วย”
“ค่ะ ดิฉันจะรีบนำขึ้นมาให้ค่ะท่านประธาน” เอมี่ก้มหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะรีบก้าวออกไปจากห้องทำงานของลูเซียสอย่างรวดเร็ว
แข้งขาสั่นเทาขึ้นมาดื้อๆ เมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของผู้ทรงอำนาจสูงสุดแห่งเมเนนเดซแอร์เวย์อย่างลูเซียส เมเนนเดซ ผู้ขึ้นชื่อลือชาในความเอาแต่ใจและโหดร้ายสุดๆ
ก็คงเพราะอย่างนี้ล่ะมั้ง ทุกคนในแผนกบัญชีรวมถึงผู้จัดการถึงได้ส่งพนักงานตัวเล็กๆ อย่างหล่อนให้ขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ที่ได้รับฉายาว่าอสูรร้ายแห่งเอเธนส์อย่างไร้เมตตา
“อ้าว ทำไมคุณหญิงถึงไม่ขึ้นมาเอง ให้นิดามาแทนได้ยังไงเนี่ย”
เอมี่ร้องถามออกมาอย่างไม่พอใจนัก เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าหวานที่เป็นเพียงพนักงานบัญชีเล็กๆ เป็นคนหอบแฟ้มงบดุลขึ้นมา แทนที่จะเป็นทิชากรผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน แล้วนี่จะคุยกับท่านประธานของหล่อนรู้เรื่องได้ยังไง
“เอ่อ...คือว่า...”
คำพูดสั่นๆ ยังดังออกมาจากกลีบปากอิ่มสีแดงสดไม่ทันจบ ประตูห้องก็เปิดออกมาเสียก่อน พร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่อย่างผู้ชายสุขภาพดีก็เดินออกมา
ทุกอย่างในโลกเหมือนหยุดเคลื่อนไหว เมื่อสายตาคมกล้าดุจพญาเหยี่ยวหรี่แคบมองจ้องมา เลือดสาวภายในกายร้อนผ่าวเดือดพล่านอย่างรุนแรง มันรุนแรงมากกว่าการเจอกันโดยบังเอิญเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเสียอีก
เพราะครั้งนั้นแค่ระยะไกลๆ แต่นี่ ตอนนี้ ขณะนี้ มันใกล้แค่ไม่กี่ก้าว จนหล่อนมองเห็นความอำมหิตจากนัยน์ตาสีดำขลับซึ่งมีแพขนตายาวงอนล้อมรอบอยู่ได้อย่างชัดเจน และมันก็ทำให้ช่องท้องของหล่อนอึดอัดปั่นป่วนแปลกประหลาด
หญิงสาวหายใจหอบสะท้าน เมื่อสติสตังถูกความหล่อเกินมนุษย์ของบุรุษตรงหน้าหอบไปทิ้งทะเลจนหมด อยากจะเดินหนี อยากจะวิ่งหนี ให้พ้นจากสายตาที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็นคู่นี้ แต่แข้งขาก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ทำได้แต่ยืนสั่นๆ มองสำรวจใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมสมบูรณ์แบบต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก
